ศูนย์วิจัยพิวในสหรัฐ เผยผลการสำรวจเมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) ที่อ้างว่าผู้คนในประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ โดยเฉพาะออสเตรเลีย มองจีนและผู้นำจีน นายสี จิ้นผิง ในแง่ลบเพิ่มขึ้น
ผลสำรวจนี้เผยแพร่ออกมาในช่วงที่จีนใช้วิธีการทางการทูตต่อประชาคมโลกที่ก้าวร้าวมากขึ้น ทั้งยังเกิดข้อพิพาทกับหลายประเทศตั้งแต่เรื่องการค้าไปจนถึงด้านการทหาร
ไม่ใช่แค่นั้นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระทบต่อภาพลักษณ์ของจีนในสายตาชาวต่างชาติ คือ การรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เริ่มแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น ตอนกลางของจีนเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ก่อนแพร่ไปทั่วโลก
ญี่ปุ่น-ออสเตรเลีย ไม่โหวตจีนขั้นสุด!
ส่วนประเทศที่ผู้คนมองจีนในแง่ลบมากที่สุดประเทศคือ ออสเตรเลีย ถึง 81% เพิ่มขึ้น 24% จากการสำรวจเมื่อปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มองจีนในแง่ลบถึง 86% และมีผู้ที่มองจีนในแง่บวกเพียง 9% เท่านั้น
ด้านสหราชอาณาจักร ผู้คนมองจีนในแง่ลบถึง 74% เพิ่มขึ้น 19% ขณะเดียวกันในสหรัฐ ผู้ตอบแบบสำรวจมองจีนในแง่ลบถึง 73% เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้า หรือเพิ่มขึ้น 20% นับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือน ม.ค. 2560
นอกจากนี้ยังพบว่า 9 ประเทศจากทั้งหมดมีการสำรวจ คือ สเปน เยอรมนี แคนาดา เนเธอร์แลนด์ สหรัฐ สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ สวีเดน และออสเตรเลีย ระดับการมองจีนในแง่ลบยังพุ่งสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เริ่มสำรวจเมื่ออย่างน้อย 12 ปีที่แล้ว
เบลเยียมและเดนมาร์ก ที่เพิ่งสำรวจครั้งนี้เป็นครั้งแรกก็มองจีนในแง่ลบ คิดเป็น 71% และ 75% ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน มุมมองต่อจีนของผู้ตอบแบบสำรวจในอิตาลีกลับคงที่ โดยมองว่าจีนในแง่ลบที่ 62% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนเพียง 5%
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่าความนิยมในตัวนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ยังต่ำที่สุดตั้งแต่มีการสำรวจมา เพราะการรับมือโรคโควิด-19
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,South China Morning Post
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น