กรณีพ่อชาวญี่ปุ่นทารุณลูกสาววัย 10 ขวบจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่พบข้อมูล เคยบังคับลูกเขียนจดหมายโกหก เพื่อนำตัวกลับมาจากศูนย์สงเคราะห์เด็ก แม่สารภาพยอมให้ลูกถูกทำร้าย เพราะตัวเองจะได้รอด
จากคดีสุดสลดและสะเทือนใจในประเทศญี่ปุ่นเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีการเสียชีวิตของเด็กหญิงมิอะ คูริฮาระ วัย 10 ขวบ ที่ถูก ยูอิชิโระ คูริฮาระ ผู้เป็นพ่อวัย 41 ปี ลงโทษอย่างทารุณจนถึงแก่ชีวิตภายในห้องน้ำที่บ้านในจังหวัดชิบะ สภาพศพมีบาดแผลจากการถูกทำร้าย และผลการตรวจสอบภายในท้องไม่พบว่ามีอาหาร
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 เว็บไซต์เจแปนทูเดย์ รายงานว่า ภายหลังจากทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พบว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่ผ่านมา ทางคุณครูทราบเรื่องว่า เด็กหญิงถูกทำร้าย มีบาดแผลที่ร่างกาย ก่อนเด็กหญิงจะได้รับการช่วยเหลือให้ไปอยู่ศูนย์สงเคราะห์เด็ก แต่ต่อมาทางศูนย์ฯ ได้ปล่อยตัวเด็กหญิงกลับไปหาครอบครัว ภายหลังจากได้รับจดหมายหนึ่งฉบับ
โดยจดหมายดังกล่าว เขียนโดยลายมือของเด็กหญิงมิอะ เนื้อความระบุว่า "หนูโกหกว่าพ่อตี หนูเล่าให้คุณครูที่โรงเรียนฟังโดยไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นปัญหากับพ่อ แม่ น้องสาว และญาติ หนูขอโทษค่ะ" อีกทั้งยังมีการระบุว่า เธออยากกลับไปอยู่ที่บ้านกับพ่อ-แม่ และน้องสาววัย 1 ขวบ ไม่อยากอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ฯ อีกแล้ว
หลังจากนั้น 2 วันเด็กหญิงก็ถูกส่งตัวกลับไปหาครอบครัว จนกระทั่งในเดือนมีนาคม ทางเด็กหญิงแจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ที่โรงเรียนทราบว่า เธอถูกพ่อบังคับให้เขียนจดหมายดังกล่าว
อย่างไรก็ดี แม้จะทราบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เด็กจะถูกพ่อบังคับให้เขียนจดหมายจริง แต่เจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ กลับไม่ได้ซักถามเรื่องนี้จากเด็กอย่างจริงจัง และไม่ได้มีการตรวจสอบจดหมายดังกล่าวให้ละเอียด นับเป็นความผิดพลาดที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจปล่อยเธอให้อยู่กับครอบครัว กระทั่งเกิดเหตุสลดในเวลาต่อมา
ฮิโตชิ นิเฮอิ หัวหน้าศูนย์สงเคราะห์ดังกล่าว ได้ออกมาแสดงความเสียใจและกล่าวขอโทษ ระบว่า "หน้าที่ของเราคือปกป้องชีวิตของเด็ก เราเสียใจอย่างที่สุด"
ทั้งนี้ มีรยงานเผยว่า ทางด้านแม่ของเด็กหญิง ถูกจับกุมภายหลังจากทางเจ้าหน้าที่จับกุมผู้เป็นพ่อแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาเธอที่ละเลย ปล่อยให้สามีทำร้ายร่างกายลูกสาว โดยเธอระบุว่า เธอก็ถูกสามีทำร้ายเช่นเดียวกัน ซึ่งเธอคิดว่าจะสามารถจะหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายจากสามีได้ หากลูกสาวตกเป็นเหยื่อแทน
ขอบคุณข้อมูลจาก : hilight.kapook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น