 |
ประเทศเบลารุส ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของรัสเซีย และทางเหนือของยูเครน จัดการลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ผลออกมาว่า ประชาชน 65.16% เห็นชอบให้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เปลี่ยนสถานะของประเทศจากประเทศปลอดนิวเคลียร์มาครองครองอาวุธนิวเคลียร์ได้
การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนสถานะของเบลารุสเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดทางให้รัสเซียมาจัดเก็บหรือตั้งฐานยิงอาวุธนิวเคลียร์จากเบลารุสได้เช่นกัน ทั้งยังเกิดขึ้นในช่วงที่รัสเซียส่งทหารเข้าไปรุกรานประเทศยูเครน จากความกังวลว่ายูเครนจะตีตัวออกหากไปใกล้ชิดกับสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือมากขึ้น
ด้านนายอัลยักซานดร์ ลูกาเชนกา ประธานาธิบดีเบลารุส กล่าวว่า ถ้าหากชาติตะวันตกต้องการขนย้ายอาวุธนิวเคลียร์มาให้โปแลนด์หรือลิทัวเนีย หรือมาใกล้ชายแดนของเบลารุส ตนก็จะบอกนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ให้คืนอาวุธนิวเคลียร์ ที่เคยทิ้งไป กลับมา โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ
สื่อมวลชนในรัสเซียให้ข้อมูลว่า การทำประชามตินี้จะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศรับรองผลประชามติอย่างเป็นทางการใน 10 วัน
สำนักข่าว เดอะ วอชิงตัน โพสต์ จากสหรัฐ รายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า เบลารุสก็กำลังเตรียมส่งทหารเข้าไปช่วยรัสเซียรุกรานยูเครนเช่นกัน โดยจะเริ่มภายในวันจันทร์ (28 ก.พ.)
"ชัดมากเลยตอนนี้ว่ามินสก์ (อ้างถึงรัฐบาลเบลารุส เรียกตามชื่อเมืองหลวง) เป็นกำลังเสริมของเครมลิน (อ้างถึงรัฐบาลรัสเซีย เรียกตามพระราชวังเครมลิน ที่ปัจจุบันใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย)"
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook news
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น