อิสราเอล ใช้ปฏิบัติการถล่มทางอากาศในฉนวนกาซา สังหารผู้บัญชาการฮามาสนับ 10 ราย พังถล่มอาคารสูงควันโขมง ฝ่ายนักรบปาเลสไตน์ไม่ถอย ระดมจรวดร่วม 1,500 ลูก ยิงสวน
วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 สำนักข่าวเอพี มีรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์ขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในพื้นที่ฉนวนกาซา โดยพบว่าในวันพุธที่ผ่านมา (12 พฤษภาคม) อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างดุเดือดใส่กาซา สามารถสังหารผู้บัญชาการระดับสูงของกลุ่มฮามาสได้ร่วม 10 ราย ทั้งยังถล่มตึกสูงซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มฮามาสตลอดจนสำนักงานต่าง ๆ ในขณะที่ฮามาสเองโจมตีสวนกลับด้วยการยิงจรวดถล่มใส่เมืองของอิสราเอลเช่นกัน
ในเวลาเพียงแค่ 3 วันของการปะทะครั้งล่าสุด สถานการณ์ดูจะตึงเครียดและเลวร้ายยิ่งกว่าสงครามนาน 50 วันเมื่อปี 2557 โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีท่าทียอมถอย
รายงานเผยว่า การโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลเริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นและดำเนินต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ถล่มพื้นที่หลายจุดทั่วกาซา จนผืนฟ้าเต็มไปด้วยกลุ่มควันที่ลอยโขมงจากเศษซากอาคารที่เสียหาย กระทั่งตกค่ำ ถนนในเมืองกาซาร้างผู้คนจะแทบกลายเป็นเมืองผี
ซาเอ็ด คัตทับ เภสัชกรวัย 44 ปี ซึ่งต้องพาญาติ ๆ นับสิบคนหลบหนีไปยังบ้านอีกแห่งหนึ่ง หลังอพาร์ตเมนต์ในกาซาซิตีของเขาถูกถล่ม เผยว่า "ไม่มีที่ให้หลบหนี ไม่มีที่ไหนให้ซ่อน ความสยองนั้นไม่อาจบรรยายได้"
ด้านฮามาสก็ตอบโต้ด้วยการยิงจรวจใส่อิสราเอลไม่หยุดตลอดทั้งวัน แม้แต่ในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี (13 พฤษภาคม)
ทางกระทรวงสาธารณสุขของกาซา เผยตัวเลขของผู้เสียชีวิตที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารแล้ว 69 คน ในจำนวนนี้รวมถึงเด็ก 16 คน และผู้หญิง 6 คน ขณะที่ฮามาสยอมรับว่ามีผู้บัญชาการระดับอาวุโสถูกสังหารจริง
ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตในอิสราเอลนั้นน้อยกว่ามาก โดยพบว่ามีเหยื่อความรุนแรงเพียง 7 ศพ ในจำนวนนี้บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร และบางศพเป็นเด็กวัย 6 ขวบ
ทั้งนี้ โฆษกของกองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า การโจมตีในวันพุธ (12 พฤษภาคม) สามารถสังหารคนของกลุ่มฮามาสได้อย่างน้อย 14 คน ประกอบด้วยผู้บัญชาการระดับสูงของฮามาส 10 ราย และผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธอีก 4 ราย โดยหากนับย้อนไปตั้งแต่เริ่มการปะทะครั้งนี้ กองทัพได้สังการกองกำลังของฮามาสไปแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ราย
อนึ่ง องค์การสหประชาชาติและทางการอียิปต์ ยืนยันว่ายังมีความพยายามให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิง แต่ยังไม่มีสัญญาณความคืบหน้าใด ๆ ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ประณามการยิงจรวดโดยไม่เลือกเป้าหมายของกาซา แต่ก็เรียกร้องให้ทางอิสราเอลแสดงออกซึ่งความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุด
สำหรับความรุนแรงที่เกิดขึ้นระลอกนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความตึงเครียดในนครเยรูซาเล็มเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางตำรวจอิสราเอลมีการข่มขู่เพื่อขับไล่ครอบครัวชาวปาเลสไตน์หลายสิบชีวิต ที่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวอ้างสิทธิครอบครอง นำมาสู่เหตุปะทะระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ประท้วง รอบ ๆ พื้นที่มัสยิดอัล-อักซอ โดยทางตำรวจมีการใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดแสดงใส่กลุ่มผู้ประท้วง กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 พฤษภาคม) กลุ่มฮามาสจึงเริ่มระดมยิงจรวดใส่โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องเยรูซาเล็ม
ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลอ้างว่า ทางกองกำลังนักรบปาเลสไตน์ระดมยิงจรวดราว 1,500 ลูก ในการโจมตีนาน 3 วัน ซึ่งมากถึง 1 ใน 3 ของจรวดทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้ตลอดทั้งสงครามในปี 2557 แต่ทางอิสราเอลก็โต้ตอบอย่างเจ็บแสบด้วยการโจมตีทางอากาศ ถล่มเป้าหมายกว่า 350 จุดในกาซาเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : hilight.kapook,เอพี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น