บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลั่นจะไม่เสียใจต่อการตายของ นายพลโซเลมานี หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งโดรนเข้าสังหาร แต่ขออิหร่านและทุกฝ่าย ลดระดับความรุนแรง อย่าทำสถานการณ์บานปลาย
ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน และสหรัฐฯ ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด จนสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก ภายหลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งให้โจมตีทางอากาศเพื่อสังหาร นายพลคาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองทัพอิหร่าน ทำให้ทางอิหร่านชักธง ประกาศสงครามเลือดล้างเลือด ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เกรงกลัว ลั่นมียุทโธปกรณ์ใหม่สุดล้ำ พร้อมโต้กลับหากอิหร่านกล้าตอบสนองด้วยความรุนแรง
จากท่าทีของทั้ง 2 ประเทศที่ต่างแข็งกร้าวต่อกัน เริ่มนำไปสู่ความเคลื่อนไหวของประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึง อิรัก ที่จัดประชุมสภา ลงมติขับไล่ทหารต่างชาติให้ออกไปจากอิรัก และห้ามสหรัฐฯ ใช้พื้นที่เขตแดนของอิรัก ทั้งแผ่นดิน น่านฟ้า รวมถึงน่านน้ำ ในการปฏิบัติการทางทหารใด ๆ
ล่าสุด (6 มกราคม 2563) สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตัดสินใจก้าวเข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งดังกล่าวแล้ว เพื่อหวังลดระดับความรุนแรงระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ โดยที่ จอห์นสัน ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ขอให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจ รวมถึงขอให้อิหร่านงดเว้นจากการกระทำรุนแรงใด ๆ ต่อจากนี้ และขออย่าทำให้สถานการณ์บานปลาย
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของ จอห์นสัน ยังคล้ายจะหนุนการกระทำของสหรัฐฯ อยู่บ้าง โดยนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า ตนได้ต่อสายถึง โดนัลด์ ทรัมป์ แล้ว เพื่อสนทนาถึงเรื่องการลอบสังหารนายพลโซเลมานี บุคคลซึ่งเป็นหัวหอกในปฏิบัติการทางทหารในอิหร่านและตะวันออกกลาง
โดย จอห์นสัน ชี้ว่า นายพลโซเลมานีคือภัยคุกคาม เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อรูปแบบพฤติกรรมก่อกวน และก่อให้เกิดความวุ่นวายภายในภูมิภาคตะวันออกกลาง อีกทั้งยังเป็นผู้นำที่ก่อให้เกิดการพรากชีวิตของพลเมืองผู้บริสุทธิ์หลายพันชีวิต ดังนั้น "เราจะไม่เสียใจต่อจากเสียชีวิตของเขา"
อย่างไรก็ตาม จากนี้ทางอังกฤษจะยังคงมีการติดต่อใกล้ชิดกับทุกฝ่าย เพื่อสนับสนุนการลดระดับความรุนแรง และจะมีการหารือร่วมกับรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางต่อไป
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :hilight.kapook, สำนักข่าวบีบีซี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น