ผู้นำเบลารุส ควงปืนไรเฟิล ใส่ชุดพร้อมรบ บินสำรวจผู้ประท้วง ลั่นประชาชนวิ่งพล่านเหมือนหนู ประกาศกร้าว จะบดขยี้ผู้ต่อต้าน หลังคนทั่วประเทศลุกฮือขับไล่
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สำนักข่าวประชาสัมพันธ์รัฐบาลเบลารุส ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ค่อนข้างเหลือเชื่อ ท่ามกลางสถานการณ์การประท้วงขับไล่ผู้นำที่กำลังคุกรุ่นดุเดือด
คลิปดังกล่าวเผยให้เห็น นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก (Alexander Lukashenko) ประธานาธิบดีเบลารุส ในชุดพร้อมรบ ถือปืนไรเฟิล สวมชุดเกราะกันกระสุน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินเหนือกรุงมินสค์ สำรวจตรวจตราการประท้วง และแสดงท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์ประชาชน
การประท้วงดังกล่าวก่อตัวขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่นายลูคาเชนโก ผู้นำเผด็จการที่ครองอำนาจมา 26 ปี ได้ปกครองประเทศต่ออีกสมัย เนื่องจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่ประชาชนมองว่าไร้ซึ่งความโปร่งใส
บีบีซี ระบุว่า นายลูคาเชนโกมีชัยอย่างขาดลอยถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการเลือกตั้งดังกล่าวไม่มีผู้สังเกตการณ์อิสระ และทุกฝ่ายเชื่อว่าการเลือกตั้งนี้ถูกแทรกแซง
นางสเวียตลานา ทิกคานูสกายา นักการเมืองหญิงหัวสมัยใหม่และนักเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ที่มีคะแนนนิยมสูง กลับได้คะแนนเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และเธอยังต้องถูกบีบให้หลบหนีออกนอกประเทศไปยังลิทัวเนีย โดยเธอประกาศว่าจะไม่มีวันยอมแพ้และร่วมสู้เคียงข้างประชาชน
ประชาชนชาวเบลารุสทั่วประเทศ ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น คนหนุ่มสาว คนวัยกลางคน ไปจนถึงผู้สูงอายุ พร้อมใจกันลุกฮือขับไล่นายลูคาเชนโก เรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่ง กล่าวหาว่าเขาปล้นตำแหน่งประธานาธิบดี และขโมยประชาธิบไตยไปจากประชาชน
นายลูคาเชนโกไม่พอใจในการประท้วงครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เขาเดือดพล่าน กล่าวหาว่ากลุ่มประเทศตะวันตกชักใยอยู่เบื้องหลังการก่อปฏิวัติครั้งนี้ และประกาศกร้าวว่าเขาจะ "บดขยี้" ผู้ต่อต้านเหล่านี้ให้เป็นผุยผง และดูเหมือนว่าเขาคิดเช่นนั้นจริง ๆ
คลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่เผยแพร่โดยรัฐนั้น แสดงให้เห็นว่านายลูคาเชนโกสวมชุดเกราะป้องกันกระสุนสีดำทั้งตัว เดินสะพายปืนไรเฟิลขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มุ่งหน้าไปยังวังแห่งอิสรภาพ (Independence Palace) แลนด์มาร์กสำคัญของชาติ ซึ่งนายลูคาเชนโกใช้เป็นหนึ่งในที่พำนัก "เพื่อประชุมฉุกเฉินด้านความปลอดภัย"
ระหว่างทางเขามองดูประชาชนเรือนแสนที่กำลังชุมนุม พร้อมพูดขึ้นว่า "พวกมันวิ่งพล่านราวกับหนู" และไม่มีท่าทีใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาจะลงจากตำแหน่งโดยง่าย
ทั้งนี้ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนนับแสนหลั่งไหลออกมารวมตัวกันที่จัตุรัสเสรีภาพใจกลางกรุงมินสค์ พลางร้องตะโกนคำขวัญเรียกร้องเสรีภาพและต่อต้านรัฐบาล โดย เดอะการ์เดี้ยน เผยว่า การประท้วงดังกล่าว เป็นการประท้วงทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบลารุส
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : hilight.kapook, BELTA AFP ,บีบีซี, ซีเอ็นเอ็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น