วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ตาลีบัน ประกาศจัดตั้งรัฐบาล หลังยึดอัฟกานิสถาน คืนความสงบสุข ลั่นสงครามสิ้นสุดแล้ว

         ตาลีบัน ประกาศจัดตั้งรัฐบาลอิสลาม หลังยึดครองอัฟกานิสถาน ยืนยันจะคืนความสงบสุข สงครามสิ้นสุดแล้ว ไม่เหมือนสมัยก่อน พร้อมเคารพสิทธิสตรีให้มากขึ้น ผู้หญิงไปทำงานได้


วันที่ 18 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า กลุ่มตาลีบัน (Taliban) จัดแถลงข่าวที่ทำเนียบ ณ กรุงคาบูล ประกาศตัวเป็นผู้ปกครองอัฟกานิสถานอย่างเป็นทางการ โดยให้สัญญาว่าจะนำพาซึ่งความสงบสุขมาสู่ประเทศ ประชาชนไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว เพราะสงครามได้สิ้นสุดลงแล้ว อัฟกานิสถานจะไม่ยอมให้ใครมาตั้งฐานทหารเพื่อโจมตีประเทศอื่นอีก


ก่อนหน้านี้ในปี 2539 ตาลีบันโค่นอำนาจรัฐบาลประชาธิปไตยที่ตัดตั้งโดยสหรัฐอเมริกา และยึดครองอัฟกานิสถาน และปกครองด้วยกฎหมายชารีอะห์อย่างเคร่งครัดมาก ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์เรียนทำหนังสือและห้ามทำงาน ควรอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น


ตาลีบันยังได้แบนสื่อตะวันตกทุกชนิด ตั้งแต่เพลง ภาพยนตร์ รวมไปถึงหนังสือ นอกจากนี้แล้ว การลงโทษผู้ต่อต้านต่อหน้าสาธารณชนเกิดขึ้นอยู่เสมอ รวมทั้งการประหารชีวิตในที่สาธารณะ โดยอำนาจตาลีบันสิ้นสุดลง เพราะโดนกองทัพสหรัฐฯ บุกปราบปราม ไม่กี่เดือนหลังจากเหตุการณ์ 9/11


กระทั่งล่าสุด หลังยึดอำนาจในกรุงคาบูลสำเร็จ ซาบีฮุลเลาะห์ มูจาฮีด (Zabihullah Mujahid) โฆษกตาลีบันและหนึ่งในแกนนำระดับสูง ปรากฏตัวออกสื่อเป็นครั้งแรก เพื่อแถลงให้โลกเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของตาลีบัน และเพื่อไม่ให้เกิดความกังวล หรือสับสน ยืนยันว่าในครั้งนี้ ตาลีบันไม่ได้เหมือนกลุ่มเดิมเมื่อ 25 ปีก่อน


"เราไม่ต้องการให้อัฟกานิสถานเป็นสนามรบอีกต่อไป นับตั้งแต่วันนี้ สงครามสิ้นสุดลงแล้ว และอยากส่งสาส์นไปถึงประชาคมโลก รวมทั้งสหรัฐอเมริกาด้วยว่า จะไม่มีใครถูกทำร้ายอีก เราไม่ต้องการศัตรูทั้งในและนอกประเทศ" นายมูจาฮีด กล่าว


นายมูจาฮีด กล่าวว่า ตาลีบันจะเคารพสิทธิสตรีภายใต้กฎหมายอิสลาม แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเจาะจง บอกเพียงแค่ว่า ผู้หญิงจะได้รับอนุญาตให้กลับไปทำงาน เด็กผู้หญิงไปเรียนหนังสือได้ โดยจะมีการแจกผ้าคลุมศีรษะที่หน้าบ้าน ก่อนไปโรงเรียน


กลุ่มตาลีบันให้สัญญาว่า ชาวอัฟกันที่ทำงานให้กับสหรัฐฯ รวมไปถึงอดีตรัฐบาลชุดก่อนที่มีโลกตะวันตกหนุนหลัง จะได้รับการนิรโทษกรรมโดยสมบูรณ์ และจะไม่มีการรุกราน ส่วนสื่อเอกชนควรให้ความเป็นเสรีในการทำหน้าที่ แต่ก็ได้กล่าวเตือนว่า นักข่าวไม่ควรปฏิบัติตนต่อต้านค่านิยมของชาติ


สำหรับกรณีที่มีกลุ่มนักรบติดอาวุธบุกไปตามบ้านเรือนประชาชน ไล่สอบถามว่าทำงานให้รัฐบาลและกองทัพอัฟกานิสถานหรือไม่ นายมูจาฮีด กล่าวว่า ไม่มีหลักฐานยืนยันว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเป็นสมาชิกของตาลีบัน หรือเป็นพวกผู้ร้ายที่ฉวยโอกาสสวมรอยเป็นนักรบ


เขายังกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของรัฐบาลชุดก่อนที่ทำให้กองทัพ ตำรวจและกองกำลังรักษาความปลอดภัยไร้ประสิทธิภาพและล้มเหลว ตาลีบันเข้ายึดกรุงคาบูล แค่เพื่อต้องการฟื้นฟูกฎหมายให้ถูกต้องและดำรงไว้ซึ่งความเรียบร้อยเท่านั้น หลังตำรวจสิ้นประสิทธิภาพ


ส่วนเรื่องความวุ่นวายที่สนามบินคาบูล และมีการยิงเกิดขึ้นนั้น กลุ่มตาลีบันเพียงต้องการควบคุมฝูงชน ไม่ได้จะขับไล่ให้ประชาชนหลบหนีออกนอกประเทศ แต่เกิดเป็นความแตกตื่นโกลาหลขึ้น


กลุ่มตาลีบันยังได้เจรจาเบื้องหลังกับกลุ่มรัฐบาลอัฟกานิสถานชุดเก่า รวมไปถึงอดีตประธานาธิบดีอย่าง นายฮามิด คาร์ไซ และนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ ซึ่งเคยเป็นประธานสภามาก่อน โดยตาลีบันประกาศว่า จะจัดตั้งรัฐบาลปกครองประเทศภายใต้กฎหมายอิสลาม


การเจรจามุ่งเน้นไปที่การดำเนินการว่า ตาลีบันจะปกครองอัฟกานิสถานอย่างไร หลังจากความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยเงื่อนไขเพิ่มเติม


รายงานระบุอีกว่า มุลเลาะห์ อับดุล ฆานี บาราดาร์ (Mullah Abdul Ghani Baradar) ผู้นำตาลีบัน ได้เดินทางจากกาตาร์มาถึงอัฟกานิสถานแล้ว คาดว่าการตกลงจะเสร็จสิ้นในเร็ว ๆ นี้


ไม่ว่าเจตนาที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร แต่กลุ่มตาลีบันแสดงท่าทีชัดเจนว่าได้คาดการณ์ล่วงหน้าแล้วว่าจะป้องกันไม่ให้ประชาคมระหว่างประเทศปล่อยทิ้งรัฐบาลตาลีบันอย่างโดดเดี่ยวเหมือนกับเมื่อ 25 ปีก่อน



 ทางด้าน สภายุโรป กล่าวว่า จะระงับความช่วยเหลือด้านการพัฒนาประเทศแก่อัฟกานิสถาน จนกว่าสถานการณ์ด้านการเมืองจะชัดเจนและจะพิจารณาส่งเสริมช่วยเหลือด้านมนุษยชนด้วย


นายโจเซฟ โบร์แรลล์ หัวหน้าสำนักนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ระบุว่า กลุ่มตาลีบันจะต้องเคารพมติของคณะมนตรีแห่งความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและสิทธิมนุษยชน หากต้องการเข้าถึงกองทุนพัฒนาที่จัดสรรไว้จนถึงปี 2567 มูลค่า 1.2 พันล้านยูโร หรือกว่า 4.66 หมื่นล้านบาท


ขณะที่ นายโจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังคงยืนยันการตัดสินใจเดิมในการยุติสงครามอันยาวนานที่สุดของอเมริกา


 ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :AP, New York Times, Aljazeera

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รถไฟชนกันในกรีซ ไฟลุกท่วมตู้โดยสาร 3 ตู้ ดับแล้ว 16 ศพ บาดเจ็บอีกเฉียดร้อย

       รถไฟโดยสารกับรถไฟขนส่งสินค้าชนกัน ที่กรีซ ไฟลุกท่วมตู้โดยสาร 3 ตู้ ดับแล้ว 16 ศพ บาดเจ็บอีกเฉียดร้อย