วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564

สหรัฐฯ บริจาควัคซีนไฟเซอร์ให้ไทยเพิ่ม 1 ล้านโดส พร้อมเงินอีก 167 ล้านบาท

        สหรัฐอเมริกา บริจาควัคซีนไฟเซอร์ให้ประเทศไทยเพิ่มอีก 1 ล้านโดส พร้อมเงิน 5 ล้านเหรียญ เผยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ให้คำมั่นว่า จะมอบวัคซีนให้กับทั่วโลกช่วยสู้โควิด 19


วันที่ 10 สิงหาคม 2564 นางลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ดิฉันอยู่ที่นี่ในฐานะตัวแทนของประธานาธิบดีไบเดน เพื่อเน้นย้ำความมุ่งมั่นที่เรามีต่อชาวไทยระหว่างวิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ สหรัฐฯ ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศไทยมากว่า 200 ปี ดิฉันรู้สึกยินดีที่มีโอกาสได้เห็นการดำเนินการของไทยในการฉีดวัคซีนและปกป้องประชาชนด้วยวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐฯ ได้มอบให้เมื่อเร็ว ๆ นี้


เมื่อเช้านี้ ดิฉันได้พบกับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าผู้ซึ่งเป็นวีรบุรุษและวีรสตรีของไทย ในขณะที่พวกเขาได้รับวัคซีนเข็มแรก และดิฉันรู้สึกเกิดแรงบันดาลใจที่ได้ฟังเรื่องราวของพวกเขาในการปฏิบัติงานเพื่อรักษาชีวิต ดิฉันยังได้รับฟังสรุปเกี่ยวกับการจัดสรรวัคซีนเหล่านี้อย่างรวดเร็ว เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยปลอดภัย


ประธานาธิบดีไบเดน ได้ให้คำมั่นว่า สหรัฐฯ จะมอบวัคซีนให้กับทั่วโลก ท่านประธานาธิบดีเข้าใจดีว่า ไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนจะปลอดภัย ดังนั้นเราจึงกำลังบริจาควัคซีนกว่า 500 ล้านโดสให้กับประเทศต่าง ๆ กว่า 100 ประเทศ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สำหรับประเทศไทย เราได้จัดส่งวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดสแล้ว และจะจัดส่งวัคซีนอีก 1 ล้านโดสเร็ว ๆ นี้


เรายังทราบอีกว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับแรงกดดันเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการรับมือกับความต้องการด้านมนุษยธรรม อันเป็นผลจากวิกฤตการณ์ในพม่า ดังนั้นในวันนี้ดิฉันภูมิใจที่จะประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะมอบความช่วยเหลือมูลค่า 55 ล้านเหรียญ โดยส่วนใหญ่จะเป็นความช่วยเหลือเพื่อการดำเนินการตอบสนองด้านมนุษยธรรม นอกจากนี้ เราจะให้ความช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนการรับมือต่อการระบาด ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะตึงตัวของระบบสาธารณสุขของไทย


โดยเราจะมอบความช่วยเหลือเกี่ยวกับโรคโควิด 19 จำนวน 5 ล้านเหรียญให้กับไทย ซึ่งจะให้การสนับสนุนบุคลากรสาธารณสุขที่ให้บริการฉีดวัคซีนกับประชาชน และเสริมสร้างศักยภาพระบบสาธารณสุขของไทยในการป้องกัน ตรวจหา และตอบสนองต่อโรคโควิด 19 ด้วย


ส่วนเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจำนวน 50 ล้านเหรียญนั้น จะมอบให้กับภาคีองค์การระหว่างประเทศและองค์กรนอกภาครัฐโดยตรง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านอาหารกรณีฉุกเฉิน อุปกรณ์ช่วยชีวิต ที่พักพิง การให้บริการสาธารณสุขหลัก น้ำ การส่งเสริมสุขภาพ และบริการด้านสุขอนามัยต่าง ๆ แก่ประชากรกลุ่มเปราะบางจากเมียนมา ซึ่งรวมถึงผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศกว่า 700,000 คน


ทั้งนี้ เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยให้ไทย องค์กรนอกภาครัฐ และองค์การระหว่างประเทศสามารถตอบโต้วิกฤตการณ์โควิด 19 และตอบสนองต่อความต้องการของประชากรกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดนฝั่งไทย ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ยากลำบากทั้งที่ประเทศไทยและในทั่วโลก และดิฉันอยากจะให้คนไทยทราบว่า สหรัฐฯ จะยืนเคียงข้างพวกท่านต่อไป


ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :covid-19.kapook,สถานทูตสหรัฐฯ และสถานกงสุลประจำประเทศไทย

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

รถไฟชนกันในกรีซ ไฟลุกท่วมตู้โดยสาร 3 ตู้ ดับแล้ว 16 ศพ บาดเจ็บอีกเฉียดร้อย

       รถไฟโดยสารกับรถไฟขนส่งสินค้าชนกัน ที่กรีซ ไฟลุกท่วมตู้โดยสาร 3 ตู้ ดับแล้ว 16 ศพ บาดเจ็บอีกเฉียดร้อย